ความนิยมขั้นสุดของ Hip-Hop ในไทย
ความนิยมขั้นสุดของ Hip-Hop ในไทย Hip-Hop เริ่มกลับมาเป็น Mainstream อีกครั้ง โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2560 ที่เวทีประกาศรางวัล และชาร์ทเพลงต่างๆ ที่มีศิลปิน Hip-Hop อยู่เต็มไปหมด ประกอบกับศิลปินที่ไม่ใช่ Hip-Hop ก็มองว่า Hip-Hop สามารถยกระดับเพลงตัวเองได้ จึงเกิดการทำงานร่วมกันระหว่าง Rapper
สาเหตุ
ไทยที่กระแส Hip-Hop ก็เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมในวงกว้างตั้งแต่ปี 2560 เพราะการที่ศิลปินได้รับอิทธิพลจากระดับโลก ประกอบกับช่องทางการปล่อยเพลงของ Rapper นั้นไม่ได้มีแค่ทำมาสเตอร์มาขายตามงาน หรือให้สถานีวิทยุเปิด แต่คือ YouTube, Joox, Spotify และช่องทาง Streaming อื่นๆ ที่มันเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมาก
จึงไม่แปลกที่เมื่อนำสองตัวแปรมารวมกัน การจุดกระแส Hip-Hop ในไทยจึงติดอย่างรวดเร็ว แถมไม่ได้ถูกผลักดันจากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ด้วย เพราะ Rapper ที่ออกมาโลดแล่นล้วนเป็นคนธรรมดา แต่มีฝีไม่ลายมือในการทำเพลง เช่น YOUNGOHM และกลุ่ม Producer รุ่นใหม่ เช่น Nino, T-Biggest และรายอื่นๆ
แต่ก็อาจมีคนจำได้ว่า Hip-Hop ช่วงกลางของยุค 2000s (ราวพ.ศ. 2540) อิทธิพล Hip-Hop ในประเทศไทยก็เริ่มบูมเหมือนกัน อย่างไรก็ตามการบูมครั้งนั้นก็ได้รับความนิยมในวงแคบๆ หรือคนชอบฟัง Hip-Hop ไม่ได้กลายเป็นส่วนใหญ่ของวงการเพลง และมีการนำ Rapper ต่างๆ ไปร่วมงานกับศิลปินแนวอื่น หรือเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา
รายการทีวีช่วยส่งเสริมให้ Hip-Hop เป็นวงกว้าง
ขณะเดียวกันการเกิดขึ้นของรายการแข่งร้องเพลงในแนว Hip-Hop ตั้งแต่ปี 2561 ทั้ง The Rapper และ Show Me The Money ก็ทำให้คนอื่นๆ ที่ไม่เคยฟัง หรือรู้จักเพลงแนว Hip-Hop ได้รับรู้ และเข้าใจแนวเพลงนี้มากขึ้น ยิ่งทั้งสองรายการนั้นฉายทางฟรีทีวี ก็ทำให้คนกลุ่มใหญ่เข้าถึงมากขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ก็มรายการแข่งขัน Hip-Hop มาแล้ว เช่นรายการ Rap Battle ในช่วงปี 2000s ซึ่งสร้างศิลปิน Hip-Hop มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน Rap is Now ตั้งแต่ปี 2555 ที่ช่วยจุดกระแส และสร้างสังคม Hip-Hop ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ที่สำคัญคือทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า Hip-Hop แบบ Battle มันเป็นอย่างไร
ทั้งนี้การที่โทรทัศน์ไทยหันมาผลิตรายการเกี่ยวกับ Hip-Hop ก็เพราะในเกาหลีใต้นั้นรายการ Show Me The Money มีเรตติ้งที่สูงมาก แสดงให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ และความนิยมของดนตรี Hip-Hop ในเอเชียที่น่าจะหลั่งไหลมาในประเทศไทยในไม่ช้า
สร้างรายได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็ไม่ง่าย
เมื่อพูดถึงการสร้างรายได้จากการเป็น Rapper นั้น เรียกว่าไม่ยากจนเกินเอื้อม แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับทุกคน เพราะปัจจุบันการทำเพลงนั้นสามารถจบในตัวเองได้ กล่าวคือมีไมค์, มีคอมพิวเตอร์เพื่อทำเสียง กับจังหวะ และความมั่นใจ แค่นี้ก็ได้เพลงตัวเองมาแบบง่ายๆ แล้ว
แต่หากจะจริงจังขึ้นมาหน่อย ก็มีห้องอัดให้เช่า รวมถึงคนรับจ้างทำเสียง กับจังหวะ ซึ่งมันจำเป็นกับ Rapper มาก เพราะคนทำ Beat ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง ย่อมเพิ่มความน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันตัวราคาค่าห้องอัดนั้นเฉลี่ยอยู่ที่หลักพันแล้วแต่คุณภาพ นอกจากนี้บางห้องอัดยังช่วยทำ Beat ดีๆ และทำ Master หรือนำทุกอย่างมารวมกันเป็นเพลง
ในทางกลับกันการสร้างรายได้นั้นก็ทำได้ทั้งการอัพโหลดงานเพลงขึ้นไปบน Streaming Platform ต่างๆ เพื่อหารายได้จากโฆษณา รวมถึงหากดังจริงๆ ก็อาจมีคนมาจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ และสามารถไปแสดงผลงานตามร้านอาหารต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งถ้าถึงจุดนั้นจริง มันก็คงเรียกว่า Zero to Hero ก็คงไม่แปลกนัก
สรุป
ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าดนตรี Hip-Hop นั้นน่าจะฮิตติดกระแสไปอีกระยะหนึ่ง สังเกตจากชาร์ทเพลงทั่วโลก และไทยมีแต่ Rapper เข้าไปมีส่วนร่วม และยังมีการร่วมงานระหว่างศิลปินแนวอื่นกับแนว Hip-Hop เสมอ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งสร้างความรู้จัก Hip-Hop ให้กับผู้ฟังได้มากขึ้นอีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก
