edm

5 ประเภท EDM ยอดนิยม

EDM หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Electronic Dance Music เป็นแนวของดนตรีที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่ากลายเป็นดนตรีกระแสหลักไปแล้ว ซึ่งแนวดนตรีแบบ EDM ก็จะใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีเป็นหลัก เล่นซาวด์แบบที่ให้ความรู้สึกสนุก ครื้นเครง จนอยากจะลุกขึ้นมาเต้น ซึ่งแนวเพลง EDM ก็จะถูกแยกออกไปตามแนวต่างๆ อีก 

5 ประเภท EDM ยอดนิยม

Disco

ช่วงกลางถึงปลายยุค 1970 เป็นช่วงที่แนวร็อคแอนด์โรลเป็นที่นิยมน้อยลงและคนเริ่มมาสนใจเพลง Disco ซึ่งมีส่วนผสมของ Pop, Funk, Soul เข้าจังหวะเต้นมากขึ้น (จังหวะกลองแบบตุ๊บๆๆ) ทั้ง The Bee Gees, Abba, Donna Summer ต่างเป็นที่รู้จัก แต่เพลงที่ดังที่สุดจนถึงปัจจุบันน่าจะเป็น YMCA ของ The Village People 

Disco ตายในปี 1980 ตอนที่ดีเจวิทยุแนวร็อคประกาศให้ผู้คนมาเผาผลงานแนว Disco ในสนามเบสบอล ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการจุดชนวนให้เกิดดนตรีแนว House ขึ้นนั่นเอง ปัจจุบันทั้ง Bruno Mars, Pharrell, Breakbot และ Draft Punk รวมถึงตำนานโปรดิวเซอร์อย่าง Giorgio Moroder ต่างทำเพลงแนว Disco กันอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นบ่งบอกถึงการกลับมาของ Disco ในอนาคต 

ศิลปินแนะนำ : The Bee Gees, Giorgio Moroder, Draft Punk, Bruno Mars

House

ดนตรีแขนงแรกๆ ของ EDM ซึ่ง House Music โตมาจาก Chicago โดยกลุ่มคนที่อยากจะฟังและทำเพลงแนว Disco ชื่อที่มาของ House Music มาจากการที่กลุ่มดีเจยุคนั้นเปิดเพลงและพบปะสังสรรค์กันตามโกดัง หรือ Warehouse เลยเรียกกันมาว่า House Music และเป็นยุคที่มีการใช้อุปกรณ์ดนตรีใหม่ๆ อย่างกลองไฟฟ้านั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็น David Guetta, Deadmau5 หรือ Chainsmoker ก็ตามต่างมีที่มาจาก Chicago ซึ่งแนว House นั้น ได้แตกออกมาอีกหลายแบบยิบย่อยไปอีก ทั้ง Deep House, Tech House, Tropical House, Progressive House, Electro House

ศิลปินแนะนำ : David Guetta, Deadmau5, Chainsmoker, Hardwell, Calvin Harris, Swedish House Mafia

Trance

Trance เป็นหนึ่งในแนว EDM ที่เป็นที่นิยมมากๆ Music Festival ในเมืองไทย ต่างก็เน้นแนว Trance มาเล่นเป็นหลัก ด้วยดนตรีเร็วๆ (150 BPM) เปิดเมโลดี้ซ้ำทั้งเพลงและมีบิ้วท่อนดรอปแบบนานๆ ยาวๆ จึงสร้างความสนุกให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี

ศิลปินแนะนำ : Tiesto, Armin Van Burren, Paul Van Dyke, Darude

Dubstep

ถือว่าเป็นแนวที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้ว Dubstep โตมาจากการผสมแนวดนตรี Dub กับ 2-Step / UK Garage ของเกาะอังกฤษ Dubstep ช่วงยุคแรกๆ ระหว่างปี 2005-2006  ซึ่งช่วงแรกๆ Dubstep ยังเน้นความเป็นเร็กเก้ Dub และกลองกับ Bassline อ้วนๆ เป็นเอกลักษณ์ พอมายุคหลังๆ มีผสมความเป็น House หรือ EDM มากขึ้น มีการเพิ่มท่อนโจ๊ะ ท่อนดรอป เพื่อให้มีท่อนที่คนฟังยกมือเฮร่วมสนุกไปด้วย

ศิลปินแนะนำ : Skrillex, Doctor P, Nero, Skream, Kode9

Trap

Trap เป็นแนวดนตรีที่โตมาจาก Hip-Hop ฝั่งใต้ของสหรัฐ โดยโปรดิวเซอร์ที่ทำบีทให้แรปเปอร์อย่าง Rick Ross, Future และ Waka Flocka Flame มีอิทธิพลอย่างสูง เพลงแนวนี้ก็โตมาจากเพลงแนว Crunk  อีกที ซึ่งประมาณช่วงปี 2010 เริ่มมีเพลงแนว Trap ที่ปล่อยออกมาเป็นดนตรีอย่างเดียว อย่างวง Tnght ทำให้แนว Trap เริ่มมีเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจที่เป็นมากกว่าแค่บีทของแรปเปอร์

คำว่า Trap เป็นแสลงการค้าขายยาเสพย์ติด ซึ่งสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ในสังคมของอเมริกาฝั่งใต้ที่โดนหาว่าเป็นคนล้าหลังหรือบ้านนอก ปัจจุบันแนวนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพลง Harlem Shake ของ Baauer หรือ Panda ของ Desiigner ก็ถือว่าอยู่ในสาย Trap เช่นกัน

ศิลปินแนะนำ : DJ Snake, Tnght, Diplo, Desiigner, Young Thug

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คอนเสิร์ต EDM เริ่มเข้ามาอย่างแพร่หลายในประเทศไทยทั้ง Maya music festival , Ultra Music Thailandหรือไม่ว่าจะไปงานปาร์ตี้ที่ไหนเรามักจะได้ยินเพลงที่มีจังหวะสนุก บีทมันส์ๆ เปิดให้ได้โยกตามกันเสมอ แต่หลายคนที่ฟังแนวนี้อาจจะไม่รู้ว่าเพลง EDM นั้นจริงๆมีการแยกย่อยแนวเพลงมากกว่าที่หลายคนคิด วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ EDM กันในแบบที่เข้าใจง่ายๆและเป็นแนวดนตรีที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมเปิดฟังกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.propartyevent.com

https://www.sanook.com

https://www.bigbromusic.com