R&B คืออะไร

R&B คืออะไร

รู้ไหมว่า? ดนตรี R&B ชื่อเต็มของมันคือ (ริทึมแอนด์บลูส์ อังกฤษ: Rhythm and Blues) ส่วนมากรู้จักกันในชื่อ R&B, R’n’B, RnB) เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยม โดยผสมผสานระหว่างเพลงแนว แจ๊ส กอสเปล และบลูส์ โดยเริ่มแรกจะเล่นโดยศิลปินแอฟริกัน-อเมริกัน

ประวัติ

อาร์แอนด์บีร่วมสมัย (อังกฤษ: Contemporary R&B) คือแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในฝั่งตะวันตก ถึงแม้ว่าคำย่อของคำว่า อาร์แอนด์บี จะดูเชื่อมโยงกับเพลงริทึมแอนด์บลูส์ดั้งเดิม แต่คำว่าอาร์แอนด์บีในปัจจุบันมักจะใช้ระบุหมายถึง ดนตรีของชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่มีต้นกำเนิดหลังจากการจากไปของดนตรีดิสโก้ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 แนวเพลงใหม่นี้มีองค์ประกอบของดนตรีโซล ฟังก์ แดนซ์ และตั้งแต่ปี 1000 เป็นต้นมาหลังการเกิดของเพลงนิวแจ็กสวิงที่เป็นเพลงอาร์แอนด์บี ฮิปฮอป คำย่อ อาร์แอนด์บี โดยมากมักจะมีความหมายความหมายรวมทั้งหมดของริทึมแอนด์บลูส์ ถึงแม้ว่าบางแหล่งจะอ้างว่าหมายถึงเพลงแนวเออเบินคอนเทมโพแรรี (ชื่อใช้เช่นเดียวกับรูปแบบสถานีวิทยุที่เปิดเพลงในแนวฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีร่วมสมัย)

เพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยเป็นงานเพลงที่ลื่นไหล มีจังหวะดรัมแมชชีนเป็นเบื้องหลัง ในบางครั้งใช้จังหวะแซกโซโฟนร้อยเข้ากับจังหวะให้ได้ความรู้สึกแบบแจ๊ซ (โดยมากเพลงอาร์แอนด์บีเช่นนี้จะมีในปี 1993) และดูนุ่มนวล การเรียบเรียงเสียงร้องอย่างโอ่อ่า ใช้จังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงฮิปฮอป ถึงแม้ว่าความกระด้างที่เป็นลักษณะทั่วไปของฮิปฮอปจะมีอยู่แต่ก็ลบและทำให้ดูนุ่มนวลลงในเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัย นักร้องแนวอาร์แอนด์บีมักใช้เทคนิคที่เรียกว่าเมลิสม่า นักร้องที่ได้รับความนิยมเช่น สตีวี วันเดอร์, วิตนีย์ ฮูสตัน, และมารายห์ แครี

ริทึมแอนด์บลูส์

ถูกใช้ครั้งแรกในนิตยสารบิลบอร์ดโดย เจอรี่ เว็กซ์เลอร์ (Jerry Wexler) ในปี ค.ศ. 1947 แทนที่คำว่า Race Music ที่เคยถูกใช้มาก่อน ในปี ค.ศ. 1948 บริษัท RCA Victor ได้เข้ามาทำการตลาดดนตรีคนผิวดำโดย ภายใต้ชื่อ Blues and Rhythm คำนี้ถูกกลับคำ โดยเว็กซ์เลอร์ ค่าย Atlantic Records ซึ่งเป็นผู้นำเพลงแนวอาร์แอนด์บีในยุคแรกๆ ในปีช่วงยุค 1970 ริทึมแอนด์บลูส์ ได้ครอบคลุมนิยามกับแนว โซล (Soul) และ ฟังก์ (Funk) ในปัจจุบันนิยมเรียกอาร์แอนด์บี มากกว่าคำว่า ริทึมแอนด์บลูส์

ริทึมแอนด์บลูส์ มีที่มาก่อน ร็อก แอนด์ โรลล์ ได้รับอิทธิพลมาจากเพลงแนวแจ๊ส,จัมพ์บลูส์ และ แบล็กกอสเปล มีนักดนตรีแจ๊สหลายคนที่บันทึกเสียงทั้งเพลงแจ๊ส และ ริทึมแอนด์บลูส์ เช่นวงสวิงแบนด์ของ Jay McShann, Tiny Bradshaw และ Johnny Otis เป็นต้น และโดยส่วนมาก นักดนตรีในสตูดิโอที่ทำเพลงอาร์แอนด์บี จะเป็นนักดนตรีแจ๊ส 

ในช่วงยุค 1950

ถือเป็นยุคคลาสสิกอาร์แอนด์บี มีการผสมแนวเพลงเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็น แจ๊ส และ ร็อก แอนด์ โรลล์ เพลงแนวอาร์แอนด์บีถูกพัฒนาไปที่ต่างๆ เช่นในรัฐนิวออร์ลีนส์ มีการใช้เปียโนในเพลง ตัวอย่างเช่นศิลปินที่เป็นที่รู้จักอย่าง แฟท โดมิโน (Fats Domino) ในเพลงติดชาร์ท “Blueberry Hill” และเพลง “Ain’t That a Shame” อีกที่ที่มีการพัฒนาของเพลงแนวอาร์แอนด์บีคือ ลุยเซียนา มีศิลปินเช่น Clarence “Frogman” Henry, Frankie Ford, Irma Thomas, The Neville Brothers และ Dr. John เป็นต้น เพลง ร็อก แอนด์ โรลล์ ในรูปแบบของอาร์แอนด์บี ที่เป็นที่รู้จักเพลงแรกๆ เช่น “Rocket 88″ และ “Shake, Rattle and Roll” ที่ขึ้นชาร์ททั้ง ป็อปชาร์ทและอาร์แอนด์บีชาร์ท

ช่วงต้นยุค 1960

เพลงแนวอาร์แอนด์บีมีแนวโน้มมีรูปแบบออกไปทางกอสเปลรวมถึงโซล มีศิลปินเช่น Ray Charles, Sam Cooke, และ James Brown และเริ่มมีศิลปินผิวขาวทำเพลงในแนวนี้ แต่จะเรียกว่า บลู-อายด์ โซล เช่น The Yardbirds, The Rolling Stones, The Pretty Things, The Small Faces, The Animals, The Spencer Davis Group และ The Who

ในช่วงกลางยุค 1970

คนผิวสีทำเพลงในแนวดิสโก้ ถือเป็นปรากฏการณ์ในสังคม เพลงแนวดิสโก้ได้รับความนิยมอย่างมาก พอช่วงยุค 80 เพลงดิสโก้ก็หายไป กลายเป็นเพลงช้าๆ ฟังสบายๆ ที่เรียกว่า quiet storm จนกระทั่งในปัจจุบันอาร์แอนด์บีได้เพิ่มแนวฮิปฮอป และ แร็ปอีก ซึ่งได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

R&B กับแนวเพลงที่สามารถเข้าได้กับดนตรีทุกแนว

ต้องบอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่งแนวเพลงที่อยู่เป็น เพราะไม่ว่าจะเอาไปมิกซ์กับแนวเพลงแบบไหนก็เข้ากันได้สะหมด ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลงแบบ R&B ผสมโซลในยุค 60s ก็น่าฟังไม่หยอกเกิดเป็นศิลปินอย่าง Sam Cooke, Rays Charles และ James Brown และในยุคต่อมาก็มีการนำเอา R&B มาผสมผสานกับ Disco สนุกๆใส่จังหวะกลองมันส์ๆเข้าไป มีความเป็นอิเลคโทรหน่อยๆ เป็นจังหวะป๊อปแบบแมสๆถูกใจทุกคน ให้คุณได้สนุกได้เต้นกันอย่างเมามันส์ก็จะเป็นยุคของ Michael Jackson, Stevie Wonder, Whitney Houston และ Bill Withers เพียงเท่านั้นยังไม่พอในยุค 90s นี้ก็นับได้ว่าเป็นยุคกำเนิด Diva มากมายเลยก็ว่าได้ โดยฝั่งตะวันตกเราก็จะต้องยกให้กับ Mariah Carey รวมถึงนักร้องยุคใหม่ๆที่ก่อกำเนิดขึ้นมาอย่าง Usher และ Chris Brown ส่วนในฝั่งเมืองไทยบ้านเราก็ต้องยกให้กับ เจนิเฟอร์คิ้มกันไปเลย

เหมือนกับว่าจะไม่หยุดเพลงเท่านี้ เพราะว่าในยุคปัจจุบันศิลปินหลากหลายท่านก็ได้ค้นพบแล้วว่า Hip-Hop และ R&B นั้นสามารถเข้ากันได้ราวกับกิ่งทองใบหยกเลยทีเดียว และต้องขอยอมรับเลยว่าตั้งแต่ยุค 40s จนถึงปี 2021 นั้นแนวเพลงแบบ R&B ก็ได้เข้าไปแทรกซึมอยู่ในทุกวงการเพลง ทั้ง Jazz, Blues, Pop, Rock และ Hip-Hop ซึ่งแทบจะทนรอไม่ไหวเลยว่าในอนาคตเราจะได้ฟังเพลงเจ๋งๆที่ R&B จะสามารถไปรวมกับสไตล์ไหนได้อีก และ R&B ก็นับได้ว่าเป็น Base ดนตรีที่จะคงอยู่ตลอดไปอย่างแน่นอน 

ข้อมูลอ้างอิงจาก

https://th-th.facebook.com/Melodyplusmusicschool

https://www.music24s.com/rhythms-and-blues

https://th.wikipedia.org/wiki